เลิกกลัวกลิ่นตัวกันได้แล้ว

กลิ่นตัวมักเป็นอีกหนึ่งปัญหาสำหรับทั้งชายและหญิง โดยกลิ่นตัวนั้นมันเกิดจากเหงื่อที่ออกจากร่างกายที่แบ่งออกเป็น 2 ส่วนนั่นก็คือที่บริเวณฝ่ามือหรือฝ่าเท้า ซึ่งลักษณะเหงื่อจะเป็นน้ำใสๆ มีกลิ่นเล็กน้อย และตรงข้อพับ, รักแร้หรือขาหนีบ ซึ่งจะเป็นเหงื่อที่มีกลิ่นเหม็นกว่าและหนืดกว่า โดยกลิ่นเหล่านั้นมันมาจากความอับชื้นและการหมักหมมของแบคทีเรีย

สำหรับเหงื่อที่ออกมาจนผิดปกติและเกิดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์นั้นแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท

1.เกิดจากพันธุกรรม

2.เกิดจากโรคบางอย่างเช่นไทรอยด์, วัณโรค, คอหอยพอก, โรคหัวใจ, โรคทางสมองรวมไปถึงช่วงที่อยู่ในวัยใกล้หมดประจำเดือน

3.หาสาเหตุไม่ได้นอกจากสภาพแวดล้อมที่มีอากาศร้อนเป็นตัวเร่งเหงื่อให้ออกมากกว่าปกติ ซึ่งจะไปกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทที่ควบคุมการทำงานของต่อมเหงื่อ

เพราะฉะนั้น เมื่อเกิดปัญหากลิ่นตัวแรงกันแล้ว ก็ควรมองหาวิธีรับมือกันดีกว่าเพื่อจะได้ไม่ทำให้บุคลิกของเราเสียนั่นเอง

พฤติกรรมกำจัดกลิ่นตัวได้

1. รักษาความสะอาดของร่างกาย

กลิ่นตัวเมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ย่อมรับมือแก้ปัญหาโดยเริ่มต้นที่การรักษาความสะอาดขณะอาบน้ำ และสวมเสื้อผ้าที่สะอาดไม่อับชื้นหรือมีกลิ่น ควรเลือกเสื้อผ้าที่ผลิตจากเส้นใยธรรมชาติ เช่น ผ้าฝ้ายที่สามารถระบายเหงื่อได้

2. ความเครียด

เมื่อไรที่เราเครียดร่างกายจะหลั่งสารอดรีนาลีนออกมา และคุณทราบไหมว่าสารนี้แหละที่ทำให้คุณมีปัญหากลิ่นตัวเกิดขึ้น

3. การทำดีท็อกซ์

การทำดีท็อกซ์เป็นการล้างสารพิษที่สะสมอยู่ในร่างกาย เมื่อร่างกายมีของเสียตกค้างอยู่เป็นเวลานานก็อาจทำให้เกิดปัญหากลิ่นตัวตามมาได้ ดังนั้น วิธีแก้ปัญหาก็เพียงทำดีท็อกซ์ซะ

4. ขัดผิวบ่อยไม่ดี

สาวๆ พึงจำได้เลยค่ะว่าการขัดผิวนั้นจะทำให้แบคทีเรียบนผิวหนังของเราหลุดลอกออกไปด้วย เพราะแบคทีเรียบางชนิดก็มีผลดีต่อร่างกาย ดังนั้น เมื่อแบคทีเรียส่วนนั้นถูกทำลายไปแล้วก็จะยิ่งทำให้เกิดกลิ่นตัวง่ายขึ้นนั่นเอง ทางที่ดีแนะนำให้ขัดผิวเพียง 1-2 ครั้ง/สัปดาห์ก็พอค่ะ

นอกจากนี้ การทานอาหารบางชนิดที่มีกลิ่นแรงเช่น กระเทียม สะตอ หอม ไขมันจากสัตว์ เนื้อสัตว์ การสูบบุหรี่และยาบางชนิด ก็ทำให้เกิดกลิ่นตัวได้เช่นกัน เพราะฉะนั้น อย่าลืมหมั่นดูแลเรื่องของอาหารการกินไปพร้อมกันนะคะ

เลิกกลัวกลิ่นตัวกันได้แล้ว